Wallpaper จากเกม Dynasty Warrior
สุมาอี้, เตียนอุย, ลกซุน, ฮองตง, อีกสามคนนี่ ใครรู้บอกทีนะครับ
หน้า 1, 2
วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Wallpaper สามก๊ก
Wallpaper จากเกม Dynasty Warrior
เล่าปี่, ซุนกวน, โจโฉ, ตั๋งโต๊ะ, กวนอู, ม้าเฉียว, ซุนเซ็ก, ลิโป้, เตียวหุย, จูล่ง
หน้าที่ 1 หน้าที่2
เล่าปี่, ซุนกวน, โจโฉ, ตั๋งโต๊ะ, กวนอู, ม้าเฉียว, ซุนเซ็ก, ลิโป้, เตียวหุย, จูล่ง
หน้าที่ 1 หน้าที่2
โจโฉ - ผู้นำวุยก๊ก
โจโฉ Cao Cao
สมเด็จพระจักรพรรดิเว่ยอู่ตี้ มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 155 - ค.ศ. 220 เป็นขุนศึกและผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนสุดท้าย ในราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของประเทศจีน ในภายหลังโจโฉได้ก่อตั้งวุยก๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรของยุคสามก๊ก
ในวรรณคดีเรื่องสามก๊กบางสำนวน โจโฉได้รับการบรรยายให้เป็นจักรพรรดิที่โหดเหี้ยมและทะเยอทยาน แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว[ต้องการอ้างอิง] โจโฉเป็นผู้ปกครองที่สามารถ นักการทหารที่ชาญฉลาด และยังเป็นกวีอีกด้วย ในสามก๊ก โจโฉแม้จะเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ แต่ก็หาใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผล ตรงกันข้ามยังเป็นคนผูกใจคนเก่ง โจโฉจึงมี general และ strategist ที่เก่งกาจหลายคนทํางานให้เช่นแฮหัวตุ้น,แฮหัวเอี๋ยน,เตียวคับ,เตียว เลี้ยว,ซิหลง,เคาทู,กุยแก โจโฉชอบใช้คนมีความสามารถ รู้จักใช้คน โจโฉบริหารจัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง และออกอุบายวางแผนได้ด้วยตนเอง ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้กล่าวว่า "ยิ่งอ่าน ยิ่งรักน้ำใจโจโฉ" และเป็นที่ของหนังสือที่ชื่อ "โจโฉ นายกฯตลอดกาล" ที่ว่าด้วยการมองโจโฉในอีกแง่ และให้ฝ่ายจ๊กก๊ก ของเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป็นตัวร้ายแทน
พระเจ้าโจโฉเริ่มต้นชีวิตทางทหารด้วยการเป็นหนึ่งในแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นที่ออกปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลืองซึ่งมี "เตียวก๊ก" เป็นหัวหน้า ซึ่งมี พระเจ้าเลนเต้เป็น จักรพรรดิ โจโฉ มีชื่อรองว่า เมิ่งเต๋อ เป็นบุตรของโจโก๋ อดีตข้าหลวงในวัง เดิมมิได้แซ่ "โจ" แต่แซ่ "แฮหัว" โจโฉในวัยเด็กเป็นคนไม่เอาไหน มีรูปร่างเล็ก ฉลาดแบบเจ้าเล่ห์ เก่งในการเอาตัวรอด เชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม แต่ก็ชื่นชอบในศิลปะ อุปนิสัยรอบคอบ โจโฉได้รับความดีความชอบในการปราบโจรโพกผ้าเหลือง แต่ท้ายสุดถูกหักหลัง ต่อมาเมื่อตั๋งโต๊ะเป็นใหญ่ โจโฉก็ร่วมมือกับเจ้าเมือง 18 หัวเมืองตั้งเป็น "กองทัพสิบแปดหัวเมือง" โดยมี อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่ ปราบตั๋งโต๊ะ ต่อมาเนื่องจากโจโฉเอือมระอากับความแตกแยกในกองทัพ ประกอบกับการลอบสังหารตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จ จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกที่เห็นด้วยกับตนแยกออกมา ระหว่างทางได้พบกับนายอำเภอคนหนึ่งชื่อ ตันก๋ง
ระหว่างพักค้างแรม โจโฉได้สังหารแป๊ะเฉีย และคนในครอบครัว ด้วยเข้าใจผิดในความปรารถนาดีของแป๊ะเฉียที่จะฆ่าหมูมาเลี้ยง ความโหดเหี้ยมของโจโฉจึงปรากฏในตอนนี้ โจโฉได้กล่าววาจาที่แสดงถึงตัวตนของเขาได้ชัดเจนว่า "ข้ายอมทรยศคนทั้ง โลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า" เมื่อโจโฉตั้งตัวได้ ก็กล้าที่จะปลอมราชโองการ กล้าที่จะแอบอ้างราชโองการเพื่อที่จะกำจัดฝ่ายตรงข้าม ทำให้ในที่สุด โจโฉได้รับการสถาปนาเป็นสมุหนายก หลังจากนั้น ก็ มหาอุปราช (ไจเสี่ยง) มีอำนาจสามารถสั่งการแทนฮ่องเต้ ทำให้มีอำนาจล้นฟ้า ไม่มีใครที่จะคานอำนาจ จึงกล้าถึงขนาดทดสอบบารมีของพระเจ้าเหี้ยนเต้ด้วย จนพระเจ้าเหี้ยนเต้ต้องแอบเขียนหนังสือลับด้วยโลหิตตนเองถึงเล่าปี่ ให้จัดการกับโจโฉที่ทำตนเป็นตั๋งโต๊ะอีกคน
โจโฉ ได้ครองเมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเป็นเมืองหลวง ทำให้แคว้นวุยก๊กของเขาเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด มีไพร่พลมากที่สุด มีบุคลากรมากที่สุด มั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มากที่สุด สมัยรุ่งเรือง โจโฉได้สร้างตำหนักของตนชื่อว่า "นกยูงทองแดง" โจโฉเป็นคนรอบคอบเสียจนกลายเป็นขี้ระแวง ได้สั่งประหารบุคคลสำคัญไปหลายคน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความผิด เพราะความขี้ระแวงของตน และเมื่อสำนึกได้ ก็มักมาเสียใจในภายหลัง
โจโฉ มีภรรยา 3 คน กับภรรยาคนแรกไม่มีบุตร ภรรยาคนที่สอง มีบุตรเพียงคนเดียวเป็นชาย ชื่อ โจงั่ง ตายเมื่อครั้งสงครามกับเตียวสิ้ว กับภรรยาคนที่สาม คือ นางเปียนสี มีบุตรชายทั้งหมด 4 คน คือ โจผี โจเจียง โจสิด และ โจหิม ซึ่งโจโฉรักภรรยาคนนี้มาก ยกให้เป็นภรรยาหลวง โจโฉ ในบั้นปลายชีวิต ป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวอยู่เสมอ ๆ เมื่อหมอฮูโต๋ (ฮัวโต๋) หมอชื่อดังแห่งยุคมารักษา หมอฮูโต๋ได้เสนอให้ผ่าศีรษะ ซึ่งก็คือการผ่าตัด ถือว่าเป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยมาก แต่โจโฉไม่เข้าใจ หาว่าคนจะผ่าศีรษะโดยไม่ตายได้อย่างไร จึงพาลจองจำหมอฮูโต๋ในคุก เมื่ออาการหนักขึ้นก็เห็นภาพหลอน ก่อนตาย โจโฉเห็นหัวที่ถูกตัดแล้วของกวนอูลืมตาขึ้นได้ จึงละเมอว่ากวนอูจะมาเอาชีวิต โจโฉสิ้นชีวิตเมื่ออายุได้ 66 พรรษา (บ้างก็ว่าโจโฉตายด้วยโรคกามโรค) และภายหลังการสิ้นของโจโฉ โจผี ลูกชายคนรองก็ขึ้นมา และถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่ง และสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าโจผี แห่งราชวงศ์วุย และยกย่องโจโฉพระราชบิดาของพระองค์ขึ้นเป็นปฐมบรมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์วุย
สมเด็จพระจักรพรรดิเว่ยอู่ตี้ มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 155 - ค.ศ. 220 เป็นขุนศึกและผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนสุดท้าย ในราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของประเทศจีน ในภายหลังโจโฉได้ก่อตั้งวุยก๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรของยุคสามก๊ก
ในวรรณคดีเรื่องสามก๊กบางสำนวน โจโฉได้รับการบรรยายให้เป็นจักรพรรดิที่โหดเหี้ยมและทะเยอทยาน แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว[ต้องการอ้างอิง] โจโฉเป็นผู้ปกครองที่สามารถ นักการทหารที่ชาญฉลาด และยังเป็นกวีอีกด้วย ในสามก๊ก โจโฉแม้จะเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ แต่ก็หาใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผล ตรงกันข้ามยังเป็นคนผูกใจคนเก่ง โจโฉจึงมี general และ strategist ที่เก่งกาจหลายคนทํางานให้เช่นแฮหัวตุ้น,แฮหัวเอี๋ยน,เตียวคับ,เตียว เลี้ยว,ซิหลง,เคาทู,กุยแก โจโฉชอบใช้คนมีความสามารถ รู้จักใช้คน โจโฉบริหารจัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง และออกอุบายวางแผนได้ด้วยตนเอง ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้กล่าวว่า "ยิ่งอ่าน ยิ่งรักน้ำใจโจโฉ" และเป็นที่ของหนังสือที่ชื่อ "โจโฉ นายกฯตลอดกาล" ที่ว่าด้วยการมองโจโฉในอีกแง่ และให้ฝ่ายจ๊กก๊ก ของเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป็นตัวร้ายแทน
พระเจ้าโจโฉเริ่มต้นชีวิตทางทหารด้วยการเป็นหนึ่งในแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นที่ออกปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลืองซึ่งมี "เตียวก๊ก" เป็นหัวหน้า ซึ่งมี พระเจ้าเลนเต้เป็น จักรพรรดิ โจโฉ มีชื่อรองว่า เมิ่งเต๋อ เป็นบุตรของโจโก๋ อดีตข้าหลวงในวัง เดิมมิได้แซ่ "โจ" แต่แซ่ "แฮหัว" โจโฉในวัยเด็กเป็นคนไม่เอาไหน มีรูปร่างเล็ก ฉลาดแบบเจ้าเล่ห์ เก่งในการเอาตัวรอด เชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม แต่ก็ชื่นชอบในศิลปะ อุปนิสัยรอบคอบ โจโฉได้รับความดีความชอบในการปราบโจรโพกผ้าเหลือง แต่ท้ายสุดถูกหักหลัง ต่อมาเมื่อตั๋งโต๊ะเป็นใหญ่ โจโฉก็ร่วมมือกับเจ้าเมือง 18 หัวเมืองตั้งเป็น "กองทัพสิบแปดหัวเมือง" โดยมี อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่ ปราบตั๋งโต๊ะ ต่อมาเนื่องจากโจโฉเอือมระอากับความแตกแยกในกองทัพ ประกอบกับการลอบสังหารตั๋งโต๊ะไม่สำเร็จ จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกที่เห็นด้วยกับตนแยกออกมา ระหว่างทางได้พบกับนายอำเภอคนหนึ่งชื่อ ตันก๋ง
ระหว่างพักค้างแรม โจโฉได้สังหารแป๊ะเฉีย และคนในครอบครัว ด้วยเข้าใจผิดในความปรารถนาดีของแป๊ะเฉียที่จะฆ่าหมูมาเลี้ยง ความโหดเหี้ยมของโจโฉจึงปรากฏในตอนนี้ โจโฉได้กล่าววาจาที่แสดงถึงตัวตนของเขาได้ชัดเจนว่า "ข้ายอมทรยศคนทั้ง โลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า" เมื่อโจโฉตั้งตัวได้ ก็กล้าที่จะปลอมราชโองการ กล้าที่จะแอบอ้างราชโองการเพื่อที่จะกำจัดฝ่ายตรงข้าม ทำให้ในที่สุด โจโฉได้รับการสถาปนาเป็นสมุหนายก หลังจากนั้น ก็ มหาอุปราช (ไจเสี่ยง) มีอำนาจสามารถสั่งการแทนฮ่องเต้ ทำให้มีอำนาจล้นฟ้า ไม่มีใครที่จะคานอำนาจ จึงกล้าถึงขนาดทดสอบบารมีของพระเจ้าเหี้ยนเต้ด้วย จนพระเจ้าเหี้ยนเต้ต้องแอบเขียนหนังสือลับด้วยโลหิตตนเองถึงเล่าปี่ ให้จัดการกับโจโฉที่ทำตนเป็นตั๋งโต๊ะอีกคน
โจโฉ ได้ครองเมืองลกเอี๋ยง ซึ่งเป็นเมืองหลวง ทำให้แคว้นวุยก๊กของเขาเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด มีไพร่พลมากที่สุด มีบุคลากรมากที่สุด มั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มากที่สุด สมัยรุ่งเรือง โจโฉได้สร้างตำหนักของตนชื่อว่า "นกยูงทองแดง" โจโฉเป็นคนรอบคอบเสียจนกลายเป็นขี้ระแวง ได้สั่งประหารบุคคลสำคัญไปหลายคน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความผิด เพราะความขี้ระแวงของตน และเมื่อสำนึกได้ ก็มักมาเสียใจในภายหลัง
โจโฉ มีภรรยา 3 คน กับภรรยาคนแรกไม่มีบุตร ภรรยาคนที่สอง มีบุตรเพียงคนเดียวเป็นชาย ชื่อ โจงั่ง ตายเมื่อครั้งสงครามกับเตียวสิ้ว กับภรรยาคนที่สาม คือ นางเปียนสี มีบุตรชายทั้งหมด 4 คน คือ โจผี โจเจียง โจสิด และ โจหิม ซึ่งโจโฉรักภรรยาคนนี้มาก ยกให้เป็นภรรยาหลวง โจโฉ ในบั้นปลายชีวิต ป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวอยู่เสมอ ๆ เมื่อหมอฮูโต๋ (ฮัวโต๋) หมอชื่อดังแห่งยุคมารักษา หมอฮูโต๋ได้เสนอให้ผ่าศีรษะ ซึ่งก็คือการผ่าตัด ถือว่าเป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยมาก แต่โจโฉไม่เข้าใจ หาว่าคนจะผ่าศีรษะโดยไม่ตายได้อย่างไร จึงพาลจองจำหมอฮูโต๋ในคุก เมื่ออาการหนักขึ้นก็เห็นภาพหลอน ก่อนตาย โจโฉเห็นหัวที่ถูกตัดแล้วของกวนอูลืมตาขึ้นได้ จึงละเมอว่ากวนอูจะมาเอาชีวิต โจโฉสิ้นชีวิตเมื่ออายุได้ 66 พรรษา (บ้างก็ว่าโจโฉตายด้วยโรคกามโรค) และภายหลังการสิ้นของโจโฉ โจผี ลูกชายคนรองก็ขึ้นมา และถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่ง และสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าโจผี แห่งราชวงศ์วุย และยกย่องโจโฉพระราชบิดาของพระองค์ขึ้นเป็นปฐมบรมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์วุย
เสนาธิการและขุนนางฝ่ายบุ๋น - วุยก๊ก
สุมาอี้ Sima Yi
นายทหารคนสำคัญของวุยก๊ก หลังยุคที่โจโฉสิ้นไปแล้ว มีชื่อรองว่า ชงต๊ะ มีลักษณะ แววตาแหลมเล็กคล้ายตาเหยี่ยว สุมาอี้เป็นคนเฉลียวฉลาด ชำนาญตำราพิชัยสงคราม ใจคอหนักแน่นแต่ก็เด็ดขาดในการตัดสินใจ ทำเพื่อประโยชน์ของตนได้เสมอ โดยไม่สนใจในเรื่องคุณธรรมศักดิ์ศรี และมีความใจดำอำมหิตพร้อม ๆ กัน คู่ปรับคนสำคัญของขงเบ้ง
ตันกุ๋น Chen Qun
เสนาบดีแห่งวุยก๊ก เดิมรับราชการอยู่กับเล่าปี่และลิโป้ที่เมืองชีจิ๋ว แต่ภายหลังที่โจโฉบุกโจมตีชีจิ๋ว ได้เข้าสวามิภักดิ์กับโจโฉ ตันกุ๋นเคยเป็นผู้แนะนำให้โจโฉคิดตั้งตนเป็นฮ่องเต้เสียเอง แต่โจโฉบอกว่าถึงแม้สวรรค์จะลิขิตให้เขามีตำแหน่งสูงกว่า แต่ตัวเขาจะอยู่เป็นแค่วุยอ๋องก็พอใจแล้ว
เทียหยก Cheng Yu
ที่ปรึกษาคนสำคัญ ของโจโฉ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่โจโฉหลายครั้ง เป็นผู้ใช้อุบายดึงตัวชีซีจากเล่าปี่ และเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าเรือเสบียงของอุยกายที่มาสวามิภักดิ์มีพิรุธ ซึ่งความจริงเป็นเรือเชื้อเพลิงของอุยกายที่ใช้เอาทัพเรือโจโฉตามอุบายของจิ วยี่
ตังเจี๋ยว Dong Zhao
เสนาบดีคนสำคัญ แห่งวุยก๊ก มีชื่อรองว่ากงเหยิน เป็นคนพูดจริงทำจริง มีความรู้ความคิดดี เดิมรับราชการอยู่กับอ้วนเสี้ยว ต่อมา ตังเจี๋ยวได้เป็นที่ปรึกษาของโจโฉ เป็นคนที่แนะนำโจโฉให้ย้ายราชธานีจากลกเอี๋ยงไปฮูโต๋ ต่อมาเสนอให้โจโฉตั้งตนเป็นวุยอ๋อง โจโฉเห็นความดีความชอบของตังเจี๋ยว จึงบำเหน็จรางวัลให้เป็นอันมาก
กุยแก Guo Jia
ยอดกุนซือแห่งวุยก๊ก เป็นชาวเมืองอิ่งชวน เอี๋ยงตี๋ (เมืองอวี๋ มณฑลเหอหนานในปัจจุบัน) ชื่อรองฟ่งเสี้ยว เดิมอยู่กับอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำที่ใช้คนไม่เป็น กุยแกจึงมาอยู่กับโจโฉในวัยเพียง 27 ปี ด้วยการแนะนำของซุนฮก กุยแกเป็นนักวางแผนคนสำคัญ
กาเซี่ยง Jia Xu
ที่ปรึกษาคนสำคัญของ โจโฉ ชื่อรองเหวินเหอ เป็นคนมีประสบการณ์สูงและมีสติปัญญาเป็นเลิศ กาเซี่ยงนั้นมีบทบาทสำคัญมากในยุคของโจโฉเรืองอำนาจ แต่ด้วยความที่
เล่าหัว Liu Ye
เป็นเสนาธิการคนสำคัญ ของวุยก๊ก เป็นชาวอำเภอเฉินเต๊อะ เมืองไหวยหนาน เป็นเชิ้อพระวงศ์ฮั่น สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าฮั่นกองบู๊เมื่อโจโฉมีอำนาจในภาคตะวันตก ได้เสาะแสวงหานักปราชญ์มาเป็นพวก กุยแกได้แนะนำเล่าหัวให้แก่โจโฉ เมื่อเล่าหัวได้รับราชการกับโจโฉก็ได้สร้างความชอบมากมาย
ซุนฮิว Xun You
ที่ปรึกษาคนสำคัญของ โจโฉ เป็นหลานของซุนฮก เข้ารับราชการกับโจโฉพร้อมกับซุนฮกผู้อา มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อโจโฉเสมอ
ซุนฮก Xun Yu
ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจ โฉ เดิมอยู่รับใช้อ้วนเสี้ยว แต่ซุนฮกเห็นว่าอ้วนเสี้ยวใช้คนไม่เป็น จึงมาอยู่รับใช้โจโฉ คอยช่วยเหลือโจโฉตั้งแต่โจโฉยังเริ่มตั้งตัวในภาคตะวันออก จนได้เป็นมหาอุปราชแห่งองค์ฮ่องเต้ ซุนฮกคอยวางแผนในการรบให้โจโฉ จนโจโฉสามารถรวบรวมส่วนหนึ่งของจีนได้สำเร็จ
นายทหารคนสำคัญของวุยก๊ก หลังยุคที่โจโฉสิ้นไปแล้ว มีชื่อรองว่า ชงต๊ะ มีลักษณะ แววตาแหลมเล็กคล้ายตาเหยี่ยว สุมาอี้เป็นคนเฉลียวฉลาด ชำนาญตำราพิชัยสงคราม ใจคอหนักแน่นแต่ก็เด็ดขาดในการตัดสินใจ ทำเพื่อประโยชน์ของตนได้เสมอ โดยไม่สนใจในเรื่องคุณธรรมศักดิ์ศรี และมีความใจดำอำมหิตพร้อม ๆ กัน คู่ปรับคนสำคัญของขงเบ้ง
ตันกุ๋น Chen Qun
เสนาบดีแห่งวุยก๊ก เดิมรับราชการอยู่กับเล่าปี่และลิโป้ที่เมืองชีจิ๋ว แต่ภายหลังที่โจโฉบุกโจมตีชีจิ๋ว ได้เข้าสวามิภักดิ์กับโจโฉ ตันกุ๋นเคยเป็นผู้แนะนำให้โจโฉคิดตั้งตนเป็นฮ่องเต้เสียเอง แต่โจโฉบอกว่าถึงแม้สวรรค์จะลิขิตให้เขามีตำแหน่งสูงกว่า แต่ตัวเขาจะอยู่เป็นแค่วุยอ๋องก็พอใจแล้ว
เทียหยก Cheng Yu
ที่ปรึกษาคนสำคัญ ของโจโฉ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่โจโฉหลายครั้ง เป็นผู้ใช้อุบายดึงตัวชีซีจากเล่าปี่ และเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าเรือเสบียงของอุยกายที่มาสวามิภักดิ์มีพิรุธ ซึ่งความจริงเป็นเรือเชื้อเพลิงของอุยกายที่ใช้เอาทัพเรือโจโฉตามอุบายของจิ วยี่
ตังเจี๋ยว Dong Zhao
เสนาบดีคนสำคัญ แห่งวุยก๊ก มีชื่อรองว่ากงเหยิน เป็นคนพูดจริงทำจริง มีความรู้ความคิดดี เดิมรับราชการอยู่กับอ้วนเสี้ยว ต่อมา ตังเจี๋ยวได้เป็นที่ปรึกษาของโจโฉ เป็นคนที่แนะนำโจโฉให้ย้ายราชธานีจากลกเอี๋ยงไปฮูโต๋ ต่อมาเสนอให้โจโฉตั้งตนเป็นวุยอ๋อง โจโฉเห็นความดีความชอบของตังเจี๋ยว จึงบำเหน็จรางวัลให้เป็นอันมาก
กุยแก Guo Jia
ยอดกุนซือแห่งวุยก๊ก เป็นชาวเมืองอิ่งชวน เอี๋ยงตี๋ (เมืองอวี๋ มณฑลเหอหนานในปัจจุบัน) ชื่อรองฟ่งเสี้ยว เดิมอยู่กับอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำที่ใช้คนไม่เป็น กุยแกจึงมาอยู่กับโจโฉในวัยเพียง 27 ปี ด้วยการแนะนำของซุนฮก กุยแกเป็นนักวางแผนคนสำคัญ
กาเซี่ยง Jia Xu
ที่ปรึกษาคนสำคัญของ โจโฉ ชื่อรองเหวินเหอ เป็นคนมีประสบการณ์สูงและมีสติปัญญาเป็นเลิศ กาเซี่ยงนั้นมีบทบาทสำคัญมากในยุคของโจโฉเรืองอำนาจ แต่ด้วยความที่
เล่าหัว Liu Ye
เป็นเสนาธิการคนสำคัญ ของวุยก๊ก เป็นชาวอำเภอเฉินเต๊อะ เมืองไหวยหนาน เป็นเชิ้อพระวงศ์ฮั่น สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าฮั่นกองบู๊เมื่อโจโฉมีอำนาจในภาคตะวันตก ได้เสาะแสวงหานักปราชญ์มาเป็นพวก กุยแกได้แนะนำเล่าหัวให้แก่โจโฉ เมื่อเล่าหัวได้รับราชการกับโจโฉก็ได้สร้างความชอบมากมาย
ซุนฮิว Xun You
ที่ปรึกษาคนสำคัญของ โจโฉ เป็นหลานของซุนฮก เข้ารับราชการกับโจโฉพร้อมกับซุนฮกผู้อา มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อโจโฉเสมอ
ซุนฮก Xun Yu
ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจ โฉ เดิมอยู่รับใช้อ้วนเสี้ยว แต่ซุนฮกเห็นว่าอ้วนเสี้ยวใช้คนไม่เป็น จึงมาอยู่รับใช้โจโฉ คอยช่วยเหลือโจโฉตั้งแต่โจโฉยังเริ่มตั้งตัวในภาคตะวันออก จนได้เป็นมหาอุปราชแห่งองค์ฮ่องเต้ ซุนฮกคอยวางแผนในการรบให้โจโฉ จนโจโฉสามารถรวบรวมส่วนหนึ่งของจีนได้สำเร็จ
วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553
แม่ทัพ นายกองและขุนนางฝ่ายบู๊ - วุยก๊ก
โจจิ๋น (Cao Zhen)
ขุนพลคนสำคัญแห่งวุยก๊ก ญาติของโจโฉ มีชื่อรองว่าจื่อตัน ซื่อสัตย์สุจริต มีนิสัยกล้าหาญ และเหี้ยมโหด ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทหารในสนามรบอย่างใกล้ชิด บางครั้งค่าใช้จ่ายในกองทัพไม่พอ ก็เอาทรัพย์สินส่วนตัวออกจับจ่ายใช้สอย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ต้าซือหม่า (เสนาบดีว่าการกลาโหม)
เคาทู (Xu Chu)
ขุนพลแห่งวุยก๊ก มีร่างกายใหญ่โต ชำนาญการใช้ทวน เป็นคนซี่อสัตย์และเคร่งครัด เมื่อเตียนอุยนำกำลังไปปราบโจรโพกผ้าเหลือง ได้เห็นเคาทูจับโจรเอาไว้หมดแล้ว เตียนอุยบอกเคาทูให้ส่งโจรมา แต่เคาทูไม่ยอมจึงได้สู้กัน เตียนอุยกลับไปรายงานโจโฉว่าเคาทูมีพละกำลังแข็งแรงมากโจโฉชอบใจจึงเกลี่ยกล่อมให้มาช่วยราชการ
โจหยิน (Cao Ren)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เป็นพี่ชายของโจหอง เป็นคนจิตใจกล้าหาญ อารมณ์ร้อนแรง เคร่งครัดต่อระเบียบวินัย ชำนาญการพิชัยสงคราม เมื่อโจโฉป่าวประกาศระดมพลเพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ โจหองและโจหยินผู้พี่ได้คุมกำลังพันเศษมาเข้าร่วมกับโจโฉที่เมืองตันลิว นับแต่นั้นทั้งสองพี่พี่น้องก็ได้ร่วมมือกับโจโฉตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
โจหอง (Cao Hong)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เป็นน้องชายของโจหยิน มีนิสัยกล้าหาญบ้าบิ่น มีความจงรักภักดี อารมณ์ร้อน เมื่อโจโฉป่าวประกาศระดมพลเพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ โจหองและโจหยินผู้พี่ได้คุมกำลังพันเศษมาเข้าร่วมกับโจโฉที่เมืองตันลิว นับแต่นั้นทั้งสองพี่พี่น้องก็ได้ร่วมมือกับโจโฉตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ลิเตียน (Li Dian)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉและเป็นหนึ่งขุนพลกลุ่มแรกของโจโฉ (อันได้แก่ โจหยิน โจหอง แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น) เข้าด้วยกับโจโฉตั้งแต่โจโฉประกาศเรียกคนอาสาสมัครไปปราบตั๋งโต๊ะ เป็นคนสุภาพอ่อนโยน มีความรู้ทั้งด้านการทหารและการปกครอง
เตียนอุย (Dian Wei)
ชาวเมืองตันลิว เป็นองครักษ์คนสำคัญของโจโฉ เป็นคนรูปร่างใหญ่ ใช้ทวนคู่เป็นอาวุธ มีพลังแข็งแกร่ง เข้ามารับราชการกับโจโฉโดยการแนะนำของแฮหัวตุ้นในช่วงที่โจโฉมีอำนาจในภาคตะวันออก
แฮหัวตุ้น (Xiahou Dun)
แม่ทัพของวุยก๊ก ชื่อรองเหวียนยั้ง เป็นชาวอำเภอเจี้ยว เมืองไพก๊ก มณฑลเจียงซู มีชื่อรองว่า เหวียนยั้ง เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากแฮหัวเอง บุคคลสำคัญสมัยต้นราชวงศ์ฮั่น แฮหัวตุ้นเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่
แฮหัวเอี๋ยน (Xiahou Yuan)
แม่ทัพคนสำคัญของโจโฉ ชื่อรองเหมี่ยวฉาย เป็นน้องของแฮหัวตุ้น สวามิภักดิ์กับโจโฉตั้งแต่ตั้งกองทัพพันธมิตร 18 หัวเมือง เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าและเป็นคนที่โจโฉไว้ใจมากคนหนึ่ง
ห้าขุนพลพยัคฆ์แห่งทัพวุยก๊ก
งักจิ้น (Yue Jin)
ชาวเมืองหยางผิง เขตเว่ยกว๋อ ซึ่งปัจจุบันคือเมืองชิงเฟิง มณฑลเหอนาน มีชื่อรองเหวินเชียน ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก งักจิ้นเป็นคนรูปร่างเตี้ยและตัวเล็ก แต่จิตใจห้าวหาญ เก่งกาจในเชิงยุทธ์ เป็นขุนพลคนสำคัญของโจโฉ
เตียวเลี้ยว (Zhang Liao)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เดิมอยู่รับใช้ลิโป้ ต่อมาลิโป้ถูกจับได้ที่เมืองแห้ฝือถูกประหาร ส่วนเตียวเลี้ยวโจโฉเกลี้ยกล่อมให้มาร่วมงานด้วย เตียวเลี้ยวเป็นขุนพลที่มีความชำนาญทั้งในพิชัยสงคราม กลศึก การรบบนหลังม้า จึงมักได้รับหน้าที่ภาระสำคัญจากโจโฉเสมอ
เตียวคับ (Zhang He)
ยอดขุนพลแห่งวุยก๊ก ก่อนหน้าจะมาอยู่กับโจโฉ เคยเป็นทหารเอกของอ้วนเสี้ยว แต่ว่าขุนนางของอ้วนเสี้ยวแย่งความดีความชอบกัน จึงทำให้เตียวคับหนีไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ทำสงครามมีความดีความชอบมากมาย
ซิหลง (Xu Huang)
ชาวตำบลหยางจวิ้น เมืองเหอตง มณฑลซานซี เกิดในปี ค.ศ.168 เป็นแม่ทัพคนสำคัญของโจโฉ ใช้ขวานใหญ่เป็นอาวุธ เดิมอยู่รับใช้เอียวฮอง เมื่อโจโฉปะทะกับเอียวฮองและหันเซียม ได้ให้เคาทูออกไปรบ เอียวฮองสั่งให้ซิหลงไปสู้ โจโฉเห็นพลังของซิหลง จึงอยากได้มาเป็นขุนพล ต่อมาถูกหมันทองเกลี้ยกล่อมให้อยู่ด้วยโจโฉ
อิกิ๋ม (Yu Jin)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี เคร่งครัดในระเบียบวินัย แต่มักอิจฉาผู้อื่นที่ทำงานเกินหน้าเกินตา อิกิ๋มเดิมเป็นโจร ต่อมาเมื่อโจโฉคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ในดินแดนภาคตะวันออก โจโฉได้ค้นหาเหล่าที่ปรึกษาและเหล่าขุนพลมาร่วมงาน อิกิ๋มก็เป็นหนึ่งในขุนพลเหล่านั้น
ขุนพลคนสำคัญแห่งวุยก๊ก ญาติของโจโฉ มีชื่อรองว่าจื่อตัน ซื่อสัตย์สุจริต มีนิสัยกล้าหาญ และเหี้ยมโหด ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทหารในสนามรบอย่างใกล้ชิด บางครั้งค่าใช้จ่ายในกองทัพไม่พอ ก็เอาทรัพย์สินส่วนตัวออกจับจ่ายใช้สอย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ต้าซือหม่า (เสนาบดีว่าการกลาโหม)
เคาทู (Xu Chu)
ขุนพลแห่งวุยก๊ก มีร่างกายใหญ่โต ชำนาญการใช้ทวน เป็นคนซี่อสัตย์และเคร่งครัด เมื่อเตียนอุยนำกำลังไปปราบโจรโพกผ้าเหลือง ได้เห็นเคาทูจับโจรเอาไว้หมดแล้ว เตียนอุยบอกเคาทูให้ส่งโจรมา แต่เคาทูไม่ยอมจึงได้สู้กัน เตียนอุยกลับไปรายงานโจโฉว่าเคาทูมีพละกำลังแข็งแรงมากโจโฉชอบใจจึงเกลี่ยกล่อมให้มาช่วยราชการ
โจหยิน (Cao Ren)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เป็นพี่ชายของโจหอง เป็นคนจิตใจกล้าหาญ อารมณ์ร้อนแรง เคร่งครัดต่อระเบียบวินัย ชำนาญการพิชัยสงคราม เมื่อโจโฉป่าวประกาศระดมพลเพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ โจหองและโจหยินผู้พี่ได้คุมกำลังพันเศษมาเข้าร่วมกับโจโฉที่เมืองตันลิว นับแต่นั้นทั้งสองพี่พี่น้องก็ได้ร่วมมือกับโจโฉตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
โจหอง (Cao Hong)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เป็นน้องชายของโจหยิน มีนิสัยกล้าหาญบ้าบิ่น มีความจงรักภักดี อารมณ์ร้อน เมื่อโจโฉป่าวประกาศระดมพลเพื่อกำจัดตั๋งโต๊ะ โจหองและโจหยินผู้พี่ได้คุมกำลังพันเศษมาเข้าร่วมกับโจโฉที่เมืองตันลิว นับแต่นั้นทั้งสองพี่พี่น้องก็ได้ร่วมมือกับโจโฉตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ลิเตียน (Li Dian)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉและเป็นหนึ่งขุนพลกลุ่มแรกของโจโฉ (อันได้แก่ โจหยิน โจหอง แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น) เข้าด้วยกับโจโฉตั้งแต่โจโฉประกาศเรียกคนอาสาสมัครไปปราบตั๋งโต๊ะ เป็นคนสุภาพอ่อนโยน มีความรู้ทั้งด้านการทหารและการปกครอง
เตียนอุย (Dian Wei)
ชาวเมืองตันลิว เป็นองครักษ์คนสำคัญของโจโฉ เป็นคนรูปร่างใหญ่ ใช้ทวนคู่เป็นอาวุธ มีพลังแข็งแกร่ง เข้ามารับราชการกับโจโฉโดยการแนะนำของแฮหัวตุ้นในช่วงที่โจโฉมีอำนาจในภาคตะวันออก
แฮหัวตุ้น (Xiahou Dun)
แม่ทัพของวุยก๊ก ชื่อรองเหวียนยั้ง เป็นชาวอำเภอเจี้ยว เมืองไพก๊ก มณฑลเจียงซู มีชื่อรองว่า เหวียนยั้ง เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากแฮหัวเอง บุคคลสำคัญสมัยต้นราชวงศ์ฮั่น แฮหัวตุ้นเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่
แฮหัวเอี๋ยน (Xiahou Yuan)
แม่ทัพคนสำคัญของโจโฉ ชื่อรองเหมี่ยวฉาย เป็นน้องของแฮหัวตุ้น สวามิภักดิ์กับโจโฉตั้งแต่ตั้งกองทัพพันธมิตร 18 หัวเมือง เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าและเป็นคนที่โจโฉไว้ใจมากคนหนึ่ง
ห้าขุนพลพยัคฆ์แห่งทัพวุยก๊ก
งักจิ้น (Yue Jin)
ชาวเมืองหยางผิง เขตเว่ยกว๋อ ซึ่งปัจจุบันคือเมืองชิงเฟิง มณฑลเหอนาน มีชื่อรองเหวินเชียน ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก งักจิ้นเป็นคนรูปร่างเตี้ยและตัวเล็ก แต่จิตใจห้าวหาญ เก่งกาจในเชิงยุทธ์ เป็นขุนพลคนสำคัญของโจโฉ
เตียวเลี้ยว (Zhang Liao)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เดิมอยู่รับใช้ลิโป้ ต่อมาลิโป้ถูกจับได้ที่เมืองแห้ฝือถูกประหาร ส่วนเตียวเลี้ยวโจโฉเกลี้ยกล่อมให้มาร่วมงานด้วย เตียวเลี้ยวเป็นขุนพลที่มีความชำนาญทั้งในพิชัยสงคราม กลศึก การรบบนหลังม้า จึงมักได้รับหน้าที่ภาระสำคัญจากโจโฉเสมอ
เตียวคับ (Zhang He)
ยอดขุนพลแห่งวุยก๊ก ก่อนหน้าจะมาอยู่กับโจโฉ เคยเป็นทหารเอกของอ้วนเสี้ยว แต่ว่าขุนนางของอ้วนเสี้ยวแย่งความดีความชอบกัน จึงทำให้เตียวคับหนีไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ทำสงครามมีความดีความชอบมากมาย
ซิหลง (Xu Huang)
ชาวตำบลหยางจวิ้น เมืองเหอตง มณฑลซานซี เกิดในปี ค.ศ.168 เป็นแม่ทัพคนสำคัญของโจโฉ ใช้ขวานใหญ่เป็นอาวุธ เดิมอยู่รับใช้เอียวฮอง เมื่อโจโฉปะทะกับเอียวฮองและหันเซียม ได้ให้เคาทูออกไปรบ เอียวฮองสั่งให้ซิหลงไปสู้ โจโฉเห็นพลังของซิหลง จึงอยากได้มาเป็นขุนพล ต่อมาถูกหมันทองเกลี้ยกล่อมให้อยู่ด้วยโจโฉ
อิกิ๋ม (Yu Jin)
ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี เคร่งครัดในระเบียบวินัย แต่มักอิจฉาผู้อื่นที่ทำงานเกินหน้าเกินตา อิกิ๋มเดิมเป็นโจร ต่อมาเมื่อโจโฉคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ในดินแดนภาคตะวันออก โจโฉได้ค้นหาเหล่าที่ปรึกษาและเหล่าขุนพลมาร่วมงาน อิกิ๋มก็เป็นหนึ่งในขุนพลเหล่านั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)